1. เลือกเวอร์ชั่นของ Android OS
เนื่องจาก Android (แอนดรอย) Phone เป็นมือถือที่มีส่วนประกอบของ ระบบปฏิบัติการเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นการเลือกซื้อ Android (แอนดรอย) Phone จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึง เวอร์ชั่นของ Android (แอนดรอย) OS ที่เราต้องการด้วยครับ ซึ่งเมื่อไปที่ร้านมือถือตั้งใจจะซื้อ Android Phone สักเครื่อง แต่แล้วเราก็จะมึนงง เพราะว่ามือถือ Android Phone แต่ละยี่ห้อใช้ Android คนละเวอร์ชั่น! แล้วเราจะเลือกยังไงกันดี แล้วเราต้องใช้รุ่นไหนยังไง.. Android Phone รุ่นไหนคุ้มไม่คุ้มยังไง… ความมืดแปดด้านของการเลือก Android Phone ก็เริ่มครอบงำเรา… งั้นเรามาดูรายละเอียดว่า Android (แอนดรอย) OS แต่ละรุ่นมีความสามารถอะไรกันบ้างดีกว่าครับ เราจะได้รู้ว่า โทรศัพท์ Android Phone รุ่นที่เราเล็งอยู่นั้น มันทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง
Android(แอนดรอยด์) 1.5 (Cupcake)
Android Phone ที่ ใช้ Android (แอนดรอย) 1.5 จะมีความสามารถหลักๆดังนี้ ควบคุมด้วย Touch Screen
Android(แอนดรอยด์) 1.6 (Donut)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 1.6 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 1.5 ดังนี้
Web History / contact list Search
Internet Browser
ปรับปรุง Internet Browser และพัฒนารองรับเทคโนโลยี HTML5
Google Service
ใช้ Google Maps 3.1.2
รองรับ Microsoft Exchange
Camera
รองรับการใช้ Flash สำหรับการถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูป ซูมระดับดิจิตอลได้
Home Screen
Live Wallpapers (วอลล์เปเปอร์ แบบเคลื่อนไหวและตอบสนองการกดหน้าจอได้ เช่น หน้าจอแบบพื้นน้ำ)
Bluetooth
รองรับ Bluetooth 2.1
Android(แอนดรอยด์) 2.2 (Froyo)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.2 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.1 ดังนี้
Performance
การทำงานของ Android Phone เร็วขึ้น 5 เท่า
รองรับการลงโปรแกรมลงใน Memory Card
เปลี่ยนภาษาบน keyboard Android Phone ได้ง่ายๆ
Internet Tethering
ใช้ Android Phone เป็นโมเด็มสำหรับต่ออินเตอร์เน็ตให้คอมพิวเตอร์ได้ (Tethering)
แปลงร่าง Android Phone เป็น Wifi Hotspot
Internet Browser
รองรับการใช้ Adobe Flash 10.1 (ทำงานเร็วขึ้น)
Brower ใหม่ใช้ความสามารถของ Chrome และ JavaScript Engine
Browser ใช้งาน file upload ได้
Google Service
ปรับปรุงความสามารถ Microsoft Exchange สามารถ sync ปฏิทินได้
Bluetooth
โทรออกด้วยเสียงผ่าน Bluetooth
Android(แอนดรอยด์) 2.3/2.4 (Gingerbread)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.3/2.4 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.2 ดังนี้
การแสดงผล
รองรับหน้าจอขนาดความละเอียด WXGA (1280?768) หรือสูงกว่า
Performance
ปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น
ปรับปรุงระบบฟังก์ชั่นการทำงานของการ Copy-Paste
ทำการปรับปรุงระบบ Multi-Touch ของซอฟต์แวร์ keyboard
ปรับปรุงระบบการจัดการพลังงานแบตเตอร์รี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Internet Tethering
รองรับการสื่อสารแบบ SIP และ VoIP
Internet Browser
มีการเพิ่มโปรแกรม Download Manager เพื่อรองรับการดาวน์โหลดที่ต้องใช้ระยะเวลานาน
Multimedia
รองรับไฟล์วีดีโอประเภท WebM/VP8
รองรับไฟล์เสียงประเภท ACC
ด้านอื่นๆ
สนับสนุน Near field communication(NFC) ทำให้มือถือสามารถอ่าน RFID ได้
สนับสนุนระบบเซ็นเซอร์พื้นฐานต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น gyroscopes และ barometers เป็นต้น
สนับสนุนการทำงานร่วมกับกล้องหลายๆ ตัว
Android(แอนดรอยด์) 3.0 (Honeycomb)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 3.0 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.3 ดังนี้
การแสดงผล
รองรับการแสดงผลแบบ 3D สามมิติ
อินเทอร์เฟซแบบใหม่เรียกว่า "Holographic" โดยเพิ่มฟีเจอร์ด้าน 3D
Performance
ปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น
ปรับปรุงระบบ Multi-Tasking
การสั่งงานผ่านเมนูที่ถูกซ่อนไว้จะถูกเปลี่ยนเป็น button bar ให้เห็นปุ่มชัดๆ
Internet Browser
ปรุงเบราว์เซอร์ให้รองรับ Tablet
สามารถ sync กับ Chrome Bookmarks ได้
Google Service
สามารถใช้งาน Google eBooks
รองรับการใช้งาน Google Talk ที่สนทนาผ่านวิดีโอได้
ด้านอื่นๆ
สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีปุ่มจริงเช่น Tablet เพราะออกแบบมาให้รองรับ Virtual Buttons
สำหรับ โทรศัพท์ Android Phone ที่ใช้งาน Android (แอนดรอย) 3.0 ยังไม่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนะครับ แต่มีเปิดตัวในส่วนของ Tablet ไปแล้วคือ
- Motorola Xoom
- Acer Iconia Tab A100
- Samsung Galaxy Tab 10.1 P7100
2. พิจารณาคุณสมบัติด้านอุปกรณ์ในตัวเครื่อง
นอกจากจะต้องพิจารณา Android (แอนดรอย) OS แล้วเรายังต้องพิจารณาคุณสมบัติของอุปกรณ์ในเครื่องด้วยนะครับ ซึ่งประกอบไปด้วย
หน้าจอ ใช้วัสดุอะไรในการประกอบ ซึ่งมีตั้งแต่ LCD LED AMOLED หรือ Super AMOLED ตัวใหม่แบบอินเทรนด์
หน้าจอ รองรับการใช้ Touch screen และ multi touch screen หรือไม่
CPU ที่ใช้เป็นยี่ห้ออะไร มีความเร็วเท่าไหร่ โดยมีหน่วยวัดเป็น Hz นะครับ คล้ายการวัดใน cpu เครื่องคอมพิวเตอร์ และแน่นอนว่า ยิ่งมีความเร็วมาก ก็ยิ่งดีครับ(ก็จะมีราคาสูงตามนะครับ)
หน่วยความจำภายใน เนื่องจาก Android (แอนดรอย) ต้องการหน่วยความจำภายในตัวหลักในการลงAndroid (แอนดรอย) OS และ App สำหรับการใช้งาน(สำหรับAndroid (แอนดรอย) 2.2 จะสามารถลง App ใน sd-card ได้ ปัญหาเรื่องนี้จึงไม่มี แต่ถ้าเป็น Android (แอนดรอย) รุ่นต่ำกว่านี้ ต้องคิดเรื่อง ความจุของหน่วยความจำให้ดีครับ)
คุณภาพของเสียง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายก็จะมี มาตรฐานการพัฒนาคุณภาพเสียงที่แตกต่างกันออกไป เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญครับ
อุปกรณ์รับสัญญาณ GPS เป็นชิปประมวลผลเล็กๆที่อยู่ใน Android (แอนดรอย) Phone ซึ่งเจ้าตัวนี้มีผลต่อการใช้งาน Application หลายตัวเลยนะครับ Android (แอนดรอย) Phone บางรุ่นมีอุปกรณ์รับสัญญาณ GPS บางตัวก็ไม่มีครับ
อุปกรณ์รับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ เข็มทิศดิจิตอล แบบที่เห็นใน iPhone นั่นเองครับ
คุณภาพของกล้องที่ Android (แอนดรอย) Phone แต่ละรุ่นก็จะมีความสามารถในการถ่ายรูปที่ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเลนส์และหน่วยประมวลภาพ
อย่าลืมนะครับAndroid (แอนดรอย) Phone ประกอบด้วยส่วนของ Android (แอนดรอย) OS และ คุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่อง ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบว่า Android (แอนดรอย) Phone ที่ซื้อนั้นเป็นไปตามความต้องการของเราจริงๆนะครับ.
สามารถเลือกซื้อ Android (แอนดรอย) ดีๆ ราคาถูกๆ ได้ที่ http://www.hothitphone.com
ขอขอบคุณ http://www.techmoblog.com/android_phone_guide/